ว่าด้วยเรื่องหน้าที่ (Function) ของคอร์ด
คอร์ดต่างๆ ในบทเพลงล้วนมีหน้าที่ (Function)
บทเพลงในระบบ Tonality ที่มีฐานจากบันไดเสียงเมเจอร์และไมเนอร์นั้น ไม่ว่าจะเป็นเพลง Pop, Rock, R&B, T-Pop, J-Pop, K-pop ฯลฯ ล้วนมีเรื่องของ “หน้าที่”เกิดขึ้นตลอดเวลาครับ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญเวลาที่เราอยากทำความเข้าใจบทเพลงต่างๆ และผมเองก็ให้ความสำคัญมาก โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าการเรียนรู้และทำความเข้าใจเรื่องของ“หน้าที่”เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนที่อยากแต่งเพลง เรียบเรียงเพลง หรือพัฒนาบทเพลง หลายๆ Content ที่ผมทำไว้ในอินสตาแกรม ที่เห็นชัดๆ คงเป็นซีรี่ส์ Let’s Reharmonize ก็มาจากความรู้เรื่องนี้ครับ
ในบทความนี้ผมคงไม่อธิบายอะไรลึกมาก จะเน้นอธิบายเพื่อพอให้เห็นภาพนะครับ
เคยสงสัยมั้ย?
ขอยกตัวอย่างด้วยทางเดินคอร์ดยอดฮิตที่เหล่านักดนตรีน่าจะรู้จักแล้วกันนะครับ | II-V-I
D-7 – G7 – CMaj7
สำหรับ CMaj7 ที่เป็นคอร์ดหนึ่ง อาจจะเข้าใจได้ง่ายสำหรับหลายๆคน ก็ในเมื่อมันคือคอร์ดหนึ่ง ก็คงสำคัญที่สุด เวลาจบเพลงหลายๆเพลงก็มักจะจบด้วยคอร์ดหนึ่ง อันนี้เข้าใจได้ไม่ยาก
แล้วเคยสงสัยมั้ย ว่าบนทางเดินคอร์ดนี้ ทำไมตรง G7 ต้องเป็น G7? เป็นคอร์ดอื่นไม่ได้เหรอ? บางคนที่รู้เยอะขึ้นหน่อยก็อาจจะตอบว่าเพราะมันคือคอร์ดห้า… งั้นผมจะถามต่อว่าแล้วทำไมต้องเป็นคอร์ดห้า เป็นคอร์ดอื่นได้มั้ย คอร์ดสี่ (FMaj7) ได้มั้ย?
D-7 – FMaj7 – CMaj7
ผมพูดเสมอหลายรอบมาก (555) ว่าไม่มีเรื่องผิดถูกในดนตรี ดังนั้น จริงๆตรง G7 จะแทนที่ด้วยคอร์ด FMaj7 ก็ได้ไม่ผิด แต่นักดนตรีก็คงรู้ว่าเมื่อเราเล่น FMaj7 เสียงที่ได้มันเปลี่ยน แต่นอกเหนือจากเสียงที่ได้มันเปลี่ยน ความรู้สึกและแรงของการขับเคลื่อนเพลงในบริเวณนั้นก็เปลี่ยนด้วย อาจจะรู้สึกว่าแรงมันดรอปลง
แถมนิดนึงสำหรับบางคนที่รู้เยอะขึ้นมาอีกหน่อย ใครไม่รู้ก็ไม่ต้องซีเรียสนะครับ อ่านผ่านๆได้ครับ
D-7 – D♭7 – CMaj7
บางคนอาจจะรู้ว่าตรง G7 สามารถใช้คอร์ดแทนทรัยโทนโดยนำ D♭7 มาใช้แทนที่ได้ กรณีนี้จะต่างกับการนำ FMaj7 มาใช้แทนเมื่อกี้ โดยเสียงที่ได้นั้นเปลี่ยนไปเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่เราจะรู้สึกได้ว่า ความรู้สึกและแรงของการขับเคลื่อนเพลงในบริเวณนั้นเปลี่ยนไปไม่มากเท่า FMaj7
ที่ผมท้าวความมายาว จุดสำคัญคืออยู่ตรงนี้แหละ อะไรที่ทำให้ความรู้สึกและแรงมันเปลี่ยนไป? ทำไมใช้คอร์ดนี้แล้วแรงมันดรอป แต่ใช้คอร์ดนั้นแล้วเสียงเปลี่ยนไปก็จริงแต่รู้สึกแรงมันเท่าเดิม
โอเค ก็น่าจะรู้คำตอบแล้วเนอะ 555 ก็ตามหัวข้อที่เราพูดถึงวันนี้แหละ นั่นก็คือ “หน้าที่” นั่นเอง
คอร์ดแต่ละคอร์ดมีหน้าที่การทำงานที่แตกต่างกันไป ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลต่อความรู้สึกที่เราได้รับ หากเราแทนที่คอร์ดด้วยคอร์ดที่มีบทบาทหน้าที่เดียวกัน แม้เสียงที่ได้จะเปลี่ยนแปลงไปแต่ความรู้สึกและแรงที่ได้รับจะเปลี่ยนไปไม่มากหรืออาจจะคงที่เท่าเดิม แต่ถ้าเราแทนที่คอร์ดด้วยคอร์ดที่มีบทบาทหน้าที่แตกต่างกัน นอกจากเสียงจะเปลี่ยน ความรู้สึกและแรงที่ได้รับก็จะเปลี่ยนด้วย
พอจะนึกภาพออกมั้ยครับ
ดังนั้น จากตัวอย่างนี้ G7 กับ FMaj7 มีบทบาทหน้าที่แตกต่างกัน
ส่วน G7 กับ D♭7 อยู่ในกลุ่มบทบาทหน้าที่ที่เหมือนกันครับ
หน้าที่ของคอร์ดมีอะไรบ้าง?
ผมขออนุญาตอิงจากเนื้อหาที่ผมศึกษามาจากโรงเรียนดนตรีที่ญี่ปุ่นซึ่งมีฐานมาจากการใช้วิธีคิดแบบ Jazz นะครับ โดยจะเป็นการนำคอร์ดที่มีบทบาทหน้าที่ใกล้เคียงกันมารวมกันเป็นกลุ่มคอร์ดที่มีบทบาทหน้าที่เดียวกัน
(***เดิมของทางดนตรีคลาสสิคจะมีชื่อเรียกบทบาทหน้าที่แยกกันในแต่ละคอร์ด)
| หน้าที่ (Function) | อิมเมจของหน้าที่ (อิมเมจส่วนตัวนะครับ 555) |
| Tonic (T) | พระเอก และผู้ช่วยพระเอก |
| Dominant (D) | พระรอง และผู้ช่วยพระรอง |
| Sub-dominant (SD) | ตัวละครสบทบเบอร์หนึ่ง และเบอร์อื่นๆ |
ขอยกตัวอย่างจากแค่ในบันไดเสียง C Major ก่อนแล้วกันนะครับ
กลุ่ม Tonic : CMaj7 (พระเอก) A-7, E-7 (ผู้ช่วยพระเอก)
กลุ่ม Dominant : G7 (พระรอง) B-7b5 (ผู้ช่วยพระรอง)
กลุ่ม Sub-dominant : FMaj7 (ตัวละครสมทบเบอร์หนึ่ง) D-7 (ตัวละครสมทบเบอร์สอง)
ดังนั้นที่คอร์ดหนึ่งหรือ CMaj7 หล่อได้ก็เพราะมีพระรอง มีตัวละครสมทบ ใครจะมาเห็นความหล่อได้ถ้าอยู่ตัวคนเดียว
ต่างคอร์ดต่างมีบริวารของตัวเอง

อิมเมจก็จะประมาณนี้นะครับ แต่ละคอร์ดในแต่ละเขต (กุญแจเสียง) ต่างก็จะมีบทบาทหน้าที่ของตัวเองที่แตกต่างกันไป เพื่อทำงานส่งเสริมกันและกันระหว่างขับเคลื่อนบทเพลงครับ
ทีนี้ ในแต่ละคอร์ดก็จะมีโลกของตัวเองหรือบริวารของตัวเองอยู่อีกมากมาย
ซึ่งเรื่องของการแทนคอร์ดยืมคอร์ด ก็ตั้งต้นมาจากเรื่องนี้นี่แหละ เช่น


เวลาเราเจอคอร์ด C7 หน้า FMaj7 ในเพลงกุญแจเสียง C Major ที่มาของมันก็คือแบบนี้แหละ
ทุกคอร์ดมีหน้าที่
กลับมาที่ตัวอย่างทางเดินคอร์ดยอดฮิตอันเดิม | II-V-I

ดังนั้น แต่ละคอร์ดก็มีบทบาทหน้าที่ตามตัวอย่างที่แสดงไว้บนชุดทางเดินคอร์ดนี้
หากเราเปลี่ยนคอร์ดหรือทดแทนคอร์ดด้วยคอร์ดที่อยู่ในกลุ่มบทบาทหน้าที่เดียวกัน ความรู้สึกหรือแรงที่ได้รับก็จะใกล้เคียงกันหรือคงเดิม หากเราเปลี่ยนคอร์ดหรือทดแทนคอร์ดด้วยคอร์ดที่อยู่ในกลุ่มบทบาทหน้าที่แตกต่างกัน ความรู้สึกหรือแรงที่ได้รับก็จะเปลี่ยนแปลงไป
นี่คือเหตุผลของความรู้สึกและแรงที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อเราเปลี่ยน G7 เป็น FMaj7 หรือ D♭7
คราวนี้ลองเปลี่ยน D-7 เป็น FMaj7 ดูครับ จะรู้สึกได้ว่าความรู้สึกและแรงที่ได้รับมันใกล้เคียงกัน
ทีนี้ คอร์ดไหนมีบทบาทหน้าที่อะไรในแต่ละเขตแต่ละโลกที่ตัวเองอยู่ เป็นสิ่งที่ต้องศึกษาครับ
เช่นจากตัวอย่างก่อนหน้า FMaj7 มีหน้าที่ Sub-dominant ในเขตหรือโลกที่ CMaj7 เป็นใหญ่ แต่ในโลกของ FMaj7 เอง FMaj7 ก็เป็นพี่ใหญ่สุดที่ทำหน้าที่ Tonic
รวมถึง D-7 ในโลกของ CMaj7 นั้นทำหน้าที่ Sub-dominant แต่พอมาอยู่ในโลกของ FMaj7 ก็กลายเป็นอยู่กลุ่ม Tonic
.
.
.
บทเพลงในระบบ Tonality จะมีความสัมพันธ์ของคอร์ดแบบนี้นี่แหละ เกิดขึ้นตลอดระหว่างการขับเคลื่อนบทเพลง วันนี้ผมยกตัวอย่างแค่โลกของ C Major กับ F Major ไปนิดนึง แต่พวกคอร์ดต่างๆ ที่เป็น minor ต่างของมีโลกของมันเองเหมือนกัน (ซึ่งมันจะซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย ผมเลยไม่นำมายกตัวอย่างเพราะอาจจะชวนงง) ความสัมพันธ์ต่างๆ เหล่านี้นี่แหละ หากเรานำมาใช้เป็นและใช้ได้อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยเสริมสร้างความน่าสนใจให้บทเพลงของเรา
พอจะเห็นความสำคัญของการเรียนรู้หน้าที่ของคอร์ดบ้างหรือยังครับ ^^
หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อยนะครับ และหวังว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นให้นักดนตรี นักทำเพลง นักเรียบเรียงเพลงสนใจศึกษาเรื่องนี้ครับ ^^
ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะครับ
ไว้จะทยอยแนะนำเกร็ดอื่น ๆ อีกเรื่อย ๆ ครับ
yo23takahashi
3 thoughts on “รู้ไหมว่า… คอร์ดมี “หน้าที่””
Comments are closed.