<ว่าด้วยเรื่องของจังหวะ-2> – ค่าความยาวตัวโน้ต-2
ก่อนจะลงลึกในเรื่องจังหวะ เรามาทวนเรื่องค่าความยาวตัวโน้ตกันอีกสักครั้ง
ในบทความก่อนผมได้อธิบายไปแล้วว่าค่าความยาวของตัวโน้ตแต่ละชนิดที่เราจำกันเป็นจังหวะ เช่น โน้ตตัวกลมเท่ากับ 4 จังหวะ โน้ตตัวดำเท่ากับ 1 จังหวะ อาจจะใช้ได้ดีบ้างในทางปฏิบัติบางกรณี แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตัวโน้ตแต่ละชนิดจะมีค่าเท่ากับกี่จังหวะ ขึ้นอยู่กับเครื่องหมายกำหนดจังหวะในบริเวณนั้น ๆ
เราจะทราบได้ว่าตัวโน้ตมีค่าเท่ากับกี่จังหวะ ต้องมีเครื่องหมายกำหนดจังหวะควบคู่
ดังนั้น ในกรณีที่ไม่มีเครื่องหมายกำหนดจังหวะ เราจะบ่งบอกค่าความยาวตัวโน้ตแต่ละชนิดด้วยวิธีเทียบเคียงค่าความยาวซึ่งกันและกัน โดยเพิ่มลดตามอัตราส่วน 2 เท่า แล้วยกกำลังไปเรื่อย ๆ ( 2² = 4 เท่า / 2³ = 8 เท่า … )
เช่น โน้ตตัวกลมมีค่ามากกว่าโน้ตตัวขาว 2 เท่า มีค่ามากกว่าโน้ตตัวดำ 4 เท่า มีค่ามากกว่าโน้ตเขบ็ตหนึ่งชั้น 8 เท่า
โน้ตตัวขาวมีค่ามากกว่าโน้ตตัวดำ 2 เท่า มีค่ามากกว่าโน้ตเขบ็ตหนึ่งชั้น 4 เท่า มีค่ามากกว่าโน้ตเขบ็ตสองชั้น 8 เท่า
หรืออาจจำว่าโน้ตตัวกลมมีค่าเท่ากับโน้ตตัวขาว 2 ตัว มีค่าเท่ากับโน้ตตัวดำ 4 ตัว มีค่าเท่ากับโน้ตเขบ็ตหนึ่งชั้น 8 ตัว
โน้ตตัวขาวมีค่าเท่ากับโน้ตตัวดำ 2 ตัว มีค่าเท่ากับโน้ตเขบ็ตหนึ่งชั้น 4 ตัว มีค่าเท่ากับโน้ตเขบ็ตสองชั้น 8 ตัว ก็ได้เช่นกัน
ผังนี้ต่อไปนี้จึงมีความสำคัญมากในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของจังหวะในหลาย ๆ ประเด็นต่อจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอัตราจังหวะหรือเครื่องหมายกำหนดจังหวะ เป็นต้น
ผังค่าโน้ต

ดังนั้น ในทางเดียวกัน ตัวหยุด ที่มีค่าเท่ากับตัวโน้ตแต่ละชนิดจึงสามารถเทียบเคียงค่าความยาวซึ่งกันและกันไปในทิศทางเดียวกับการเทียบเคียงค่าตัวโน้ต
ผังค่าตัวหยุด

นอกจากนี้ยังมีเครื่องหมายอีก 2 ชนิด ที่สามารถเพิ่มค่าความยาวให้กับตัวโน้ตแต่ละชนิดได้ ได้แก่
การประจุด (Dot) และ
การโยงเสียงด้วยเครื่องหมายโยงเสียง (Tie)
การประจุด
การประจุด สามารถใช้ได้กับทั้งตัวโน้ตและตัวหยุด โดยจุดที่ประลงไปต้องอยู่ที่ด้านขวาของหัวโน้ตหรือตัวหยุด แต่ละจุดที่ประลงไปนั้นจะมีค่าเท่ากับครึ่งหนึ่งของค่าความยาวตัวโน้ตหรือตัวหยุดด้านหน้า (ที่ชิดติดทางซ้าย) เสมอ

ตัวจุดมีค่าเท่ากับครึ่งหนึ่งของโน้ตตัวกลมได้แก่โน้ตตัวขาว

จุดที่สองมีค่าเท่ากับครึ่งหนึ่งของจุดแรกจึงเป็นโน้ตตัวดำ

จุดที่สามมีค่าเท่ากับครึ่งหนึ่งของจุดที่สองจึงเป็นโน้ตเขบ็ตหนึ่งชั้น

ตัวจุดมีค่าเท่ากับครึ่งหนึ่งของโน้ตตัวดำได้แก่โน้ตเขบ็ตหนึ่งชั้น

จุดที่สองมีค่าเท่ากับครึ่งหนึ่งของจุดแรกจีงเป็นโน้ตเขบ็ตสองชั้น

จุดที่สามมีค่าเท่ากับครึ่งหนึ่งของจุดที่สองจีงเป็นโน้ตเขบ็ตสามชั้น
ดังนั้น เวลาที่บรรเลงโน้ตประจุด ต้องบรรเลงในค่าความยาวที่บวกรวมกันตามตัวอย่างข้างต้น
***ทั้งนี้ การประจุดสามารถใช้ได้เฉพาะในห้องเพลงแต่ละห้องเท่านั้นโดยไม่สามารถข้ามห้องได้
การโยงเสียง
การใช้เครื่องหมายโยงเสียงมีความแตกต่างกับการประจุด คือ ใช้ได้กับเฉพาะตัวโน้ตเท่านั้น โดยไม่สามารถใช้กับตัวหยุดได้ แต่สามารถใช้ภายในห้องเพลงเดียวกันหรือข้ามห้องได้ ซึ่งเวลาบรรเลงนั้น จะต้องบรรเลงในค่าความยาวที่เป็นผลรวมของค่าความยาวตัวโน้ตทุกตัวที่ถูกโยงเสียงเข้าด้วยกัน และ
การโยงเสียงนี้จะต้องเป็นการโยงเสียงเชื่อมระหว่างตัวโน้ตที่มีระดับเสียงเดียวกันภายในช่วงคู่แปดเดียวกันเสมอ
ดังนั้น หากโน้ตตัวหน้าติดเครื่องหมายแปลงเสียง เครื่องหมายโยงเสียงนี้จะส่งผลให้โน้ตทุกตัวที่ถูกเชื่อมโยงนั้นต้องแปลงเสียงไปด้วย

บรรเลงในค่าความยาวที่เป็นผลรวมของโน้ตตัวกลมและตัวขาว

บรรเลงในค่าความยาวที่เป็นผลรวมของโน้ตตัวกลมและตัวขาว โดยโน้ตตัวขาวในที่นี้เป็นโน้ต B♭ เช่นเดียวกับโน้ตตัวกลมที่ติดเครื่องหมายแปลงเสียง

บรรเลงในค่าความยาวที่เป็นผลรวมของโน้ตตัวกลมและตัวกลม โดยโน้ตตัวกลมที่ตามหลังในที่นี้เป็นโน้ต B♭ เช่นเดียวกับโน้ตตัวกลมตัวหน้าที่ติดเครื่องหมายแปลงเสียง

บรรเลงในค่าความยาวที่เป็นผลรวมของโน้ตเขบ็ตหนึ่งชั้นและตัวขาวและตัวดำ

บรรเลงในค่าความยาวที่เป็นผลรวมของโน้ตตัวดำและตัวดำประจุด
การทำความเข้าใจวิธีการคิดค่าความยาวของตัวโน้ตหรือตัวหยุดตามที่อธิบายในโพสต์นี้เป็นฐานสำคัญในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของจังหวะในประเด็นอื่น ๆ ต่อไป
ทั้งนี้ Content นี้เป็นการสรุปเนื้อหาแบบกระชับ ดังนั้นหากต้องการศึกษาอย่างละเอียดก็ควรที่จะหาหนังสืออ่านเพิ่มเติมนะครับ ✌︎ ขอบคุณครับ : )
ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะครับ!
ไว้จะทยอยแนะนำเกร็ดอื่น ๆ อีกเรื่อย ๆ ครับ
yo23takahashi
บรรณานุกรม;
ณัชชา พันธุ์เจริญ. ทฤษฎีดนตรี. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ: เกศกะรัต, 2551.
วิบูลย์ ตระกูลฮุ้น. ทฤษฎีดนตรีตะวันตก. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2563.
1 thought on “วิธีคิดค่าความยาวตัวโน้ต”
Comments are closed.